วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศสาธารณรัฐเช็ก


ปราสาทปรากและมหาวิหารเซนต์วิตุส
ปราสาทปรากเป็นปราสาทยุคกลางที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือเรียกได้ว่าเป็นอัญมณีแห่งกรุงปรากเลยทีเดียว ส่วนมหาวิหารก็สวยงามยิ่งใหญ่ ตัวปราสาทเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เช็กและงานศิลปะแบบโบฮีเมียน และยังมีหอศิลปะปราสาทปราก พิพิธภัณฑ์ของเล่น หอคอยดินปืน และตรอกทองคำ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ๆ น่าเข้าชม อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยสักครึ่งวัน



สะพานชาร์ลส์
เมื่อปี 1357 สะพานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่สะพานจูดิธซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12  ในปัจจุบัน สะพานชาร์ลส์เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในกรุงปราก สวยโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน และมีบรรดาพ่อค้าและเหล่านักแสดงอยู่ประปราย ทัศนียภาพของสะพานนี้จะสวยงามยิ่งขึ้นในช่วงเช้าตรู่และยามตะวันตกดิน

 
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก จัดแสดงงานนิทรรศการประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่มาตั้งแต่ปี 1891 ภายในอาคารประดับตกแต่งอย่างสวยงาม อย่าพลาดชมวิวสุดอลังการของจัตุรัสเวนเซสลาสจากชั้นบน



ชุมชนชาวยิวยอเซฟอฟ
 (พิพิธภัณฑ์และโบสถ์เก่า-ใหม่) – เป็นชุมชนชาวยิวที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ตั้งชื่อตามจักรพรรดิยอเซฟที่สอง ประกอบด้วยโบสถ์ยิว 6 หลัง เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่แสนเศร้าของชาวยิวได้ที่พิพิธภัณฑ์ชาวยิว

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศรัสเซีย


พระราชวังเครมลิน ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย แต่ได้ถูกปฏิวัต ิเป็นคอมมิวนิสต์ และได้ใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลเครมลิน เป็นชื่อ ของนักการเมือง พอระบบสังคมนิยม ล่มสลายเป็นประชาธิปไตย ก็ได้เปิดให้เป็น แหล่งท่องเที่ยว จนถึงปัจจุบัน


พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและพระราชวังฤดูหนาว ตั้งอยูที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ่านจะได้ชม “พระราชวังฤดูหนาว” จะได้พบกับความยิ่งใหญ่อลังการ มีลานกว้าง และ “เสาอเล็กซานเดอร์” ที่สร้างถวายพระเกียรติแด่กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ที่พระองค์ทรงชนะ สงครามเหนือนโปเลียนของฝรั่งเศส กล่าวได้ว่า พิพิธภัณฑ์นี้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ของฝรั่งเศสเลยทีเดียว



พระราชวังฤดูร้อนปีโตรเดอร์วาเรส เป็นพระราชวังที่สวยงามไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย พระราชวังฤดูร้อนเปโตรควาเรสต์ (ปีเตอร์ฮอฟ) ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งทะเลบอลติก เป็นพระราชวังของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตัวอาคารพระราชวังสวยงามมาก นอกจากนี้ยังมีน้ำพุมากกว่า 100 แห่ง การเข้าชมพระราชวังจะต้องนำถุงเท้าที่จัดเตรียมไว้ให้ สวมคลุมรองเท้าอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นของพระราชวังเสียหาย 



ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก แต่มีชื่อเสียงในเรื่องของสินค้าอันมีให้เลือกซื้อกัน อย่างหลากหลายชนิด ห้างสรรพสินค้ากุม หรืออีกสถนที่หนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองนี้ ห้างสรรพสินค้ากุม ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1895 มีความสวยงามและโดดเด่นมากลักษณะชองตัวอาคารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีร้านค้าเปิดให้ บริการมากมายสำหรับให้ผู้ที่เดินทางหรือผู้ที่ชอบการช้อปปิ้งถึง 200 ร้านค้าด้วยกัน แต่สินค้าที่นี่อาจจะมีทั้งรูปลักษณ์ ภายในและภายนอกที่ดูหรูหราโอ่อ่า และที่สำคัญตั้งอยู่บริเวณลานกว้างในย่านจตุรัสแดงห้างสรรพสินค้ากูม มีการจำหน่ายสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคเช่น เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน สินค้าที่มีชื่อมียี่ห้อ เครื่องสำอางค์ น้ำหอม และสินค้าที่เป็นประเภทของที่ระลึก ซึ่งมีให้เลือกกันอย่างหลากหลายทีเดียว

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอิตาลี


เวนิส(Venice)
เวนิส เป็นเมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี มีประชากร 271,663 คน เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน และ เมืองแห่งแสงสว่างเมืองเวนิส ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ทะเลสาบน้ำเค็มนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปากแม่น้ำโปกับแม่น้ำพลาวิ มีผู้อยู่อาศัยโดยประมาณ 272,000 คน ซึ่งนับรวมหมดทั้งเวนิส โดยมี 62,000 คนในบริเวณเมืองเก่า 176,000 คนในเทอร์ราเฟอร์มา) และ 31,000 คนในเกาะอื่นๆ ในทะเลสาบ




มิลาน (Milan)
เป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลีตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี เมืองมิลานมีประชากร ประมาณ 1,308,500คนโดยถ้ารวมบริเวณรอบนอกและเขตปริมณฑลจะมีประมาณ 4 ล้านคน ซึ่งเรียกเขตทั้งหมดว่า ลากรันเดมีลาโน  มิลานมีพื้นที่ประมาณ 1,982 ตร.กม. ชื่อเมืองมิลาน มาจากภาษาเซลต์ คำว่า "Mid-lan" ซึ่งหมายถึง อยู่กลางที่ราบ เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชันและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชันในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ




กรุงโรม (Rome)
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซิโอและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับมิลานและเนเปิลส์ โรมมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้งเจ็ดริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศโดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมายเช่น ราชอาณาจักรโรมันสาธารณรัฐโรมันและจักรวรรดิโรมัน โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันได้เป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลีตั้งแต่ ค.ศ. 1870 นอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิกอีกด้วย


น้ำพุเทรวี่ (Trevi fountain)
เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคำว่า“ตรีวิอุม” หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอค ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8ได้หยุดชะงักลง และดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี ทางระบายน้ำ เวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2000ปี ครั้งสมัยโรมโบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่ง ตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสตศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้นได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล”ว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศฝรั่งเศส


หอไอเฟลมีความสูง 300 เมตร (986 ฟุต) ซึ่งไม่รวม เสาอากาศ 24 เมตร (72 ฟุต) ด้านบนนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น ในขณะที่ก่อสร้างปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดบนโลก โดยถูกล้มตำแหน่งเมื่อเมืองนิวยอร์กได้สร้าง ตึกไครส์เลอร์ สูง 319 เมตร (1047 ฟุต)
น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น



เดิมนั้น เมืองแวร์ซายเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น มีผู้คนอาศัยอยู่เบาบาง บริเวณส่วนใหญ่เป็นป่าเขา เยี่ยงชนบทอื่น ๆ ของฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ยังทรงพระเยาว์ ขณะพระชนมายุได้ 23 พระชันษา ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายน่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน พ.ศ. 2167 โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น

 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (ฝรั่งเศส: Musée du Louvre) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมได้เมื่อปี พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่งแอนทีออก ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง] และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เป สถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน


   วิหารแซ็งต์-ชาแปล ที่ตั้งอยู่ลานของพระราชวังหลวงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บรักษาวัตถุมงคลของแซ็งต์-ชาแปลที่รวมทั้งมงกุฎหนามของพระเยซู, ภาพเอเดสซา และวัตถุมงคลอื่น ๆ เกี่ยวกับพระเยซูอีกสามสิบชิ้นที่เดิมเป็นของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9

 

ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1239 ที่ทรงได้รับจากนักบวชโดมินิคันสององค์ที่เวนิส พระเจ้าหลุยส์ทรงทำการซื้อมงคลวัตถุที่เกี่ยวกับทุกขกิริยาของพระเยซูจากพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิลาตินแห่งคอนสแตนติโนเปิล, บอลด์วินที่ 2 แห่งคอนสแตนติโนเปิลเป็นจำนวนเงินมหาศาลถึง 135,000 [ลีฟวร์ตูร์นัว]]ที่จ่ายให้แก่พ่อค้าชาวเวนิสที่สมบัติเหล่านี้ถูกจำนำอยู่ ค่าก่อสร้างแซ็งต์-ชาแปลเองที่เป็นที่เก็บตกมงคลวัตถุราคาเพียง 40,000 ลีฟวร์ตูร์นัว ก่อนหน้าที่จะสร้างเสร็จมงคลวัตถุได้รับการเก็บรักษาไว้ที่พระราชวังแวงแซนส์ และในชาเปลที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะที่พระราชวังแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล ในปี ค.ศ. 1241 ก็ได้มงคลวัตถุเพิ่มขึ้นที่รวมทั้งสัตยกางเขนและอื่น ๆ ฉะนั้นวิหารแซ็งต์-ชาแปลที่ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1248 จึงเป็นเสมือน “หีบบรรจุวัตถุมงคล” (Reliquary

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอียิปต์


พีระมิดในประเทศอียิปต์ เป็นหนึ่งในพีระมิดที่เป็นที่รู้จักโดยมีหลายแห่งในประเทศอียิปต์ เป็นสิ่งก่อสร้างของชาวอียิปต์โบราณสมัยก่อนยุคเหล็ก โดยเฉพาะ พีระมิดคูฟู ใน หมู่พีระมิดแห่งกิซ่า นับเป็นสิ่งก่อสร้าง ขนาดใหญ่ที่สุด ที่มนุษย์เคยสร้างขึ้นมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการ ที่น่าอัศจรรย์ของอียิปต์โบราณ



มัมมี่ (อังกฤษ: Mummy) คือศพที่ดองหรือแช่ในน้ำยาพิเศษในประเทศอียิปต์ พันทั่วทั้งร่างกายด้วยผ้าลินินสีขาว เพื่อเป็นการรักษาสภาพของศพเพื่อรอการกลับคืนร่างของวิญญาณผู้ตาย ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ คำว่า "มัมมี่" มาจากคำว่า "มัมมียะ" (Mummiya) ซึ่งเป็นคำในภาษาเปอร์เซีย มีความหมายถึงร่างของซากศพที่ถูกดองจนกลายเป็นสีดำ โดยชาวอียิปต์โบราณจะทำมัมมี่ของฟาโรห์และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ และนำไปฝังในลักษณะแนวนอนภายใต้พื้นแผ่นทรายของอียิปต์ อาศัยแรงลมที่พัดผ่านในแถบทะเลทรายอาระเบียและทะเลทรายในพื้นที่รอบบริเวณของอียิปต์ เพื่อป้องกันการเน่าเปื่อยของซากศพที่อาบด้วยน้ำยา
ในอียิปต์โบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตหลังความตาย เกี่ยวกับการหวนกลับคืนร่างของวิญญาณ โดยมีความเชื่อว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างไปชั่วระยะเวลาหนึ่งจะหวนกลับคืนสู่ร่างเดิมของผู้เป็นเจ้าของ จึงต้องมีการถนอมและรักษาสภาพของร่างเดิม โดยการแช่และดองด้วยน้ำยาบีทูมิน ซึ่งจะช่วยรักษาและป้องกันไม่ให้ซากศพเน่าเปื่อยผุผังไปตามกาลเวลา



"สฟิงค์ (Spinx)" เป็นสัตว์ที่มีส่วนผสมของสัตว์หลายชนิดรวมอยู่ในตัวเดียวกันตามความเชื่อของคนแถวอียิปต์ จะว่าเฉพาะอียิปต์ซะทีเดียวก็จะรวบรัดไป เพราะสฟิงซ์มีอยู่หลายเผ่าพันธุ์ต่างไปตามการแต่งเติมสีสันให้น่ากลัวมากขึ้นเท่าไร อย่างของชาวกรีกสฟิงซ์จะมีใบหน้าและทรวงอกของหญิงสาว ท่อนล่างเป็นสิงโตและมีปีกแบบนกอินทรี ส่วนของอียิปต์หรือพันธุ์ที่เราเรียกว่า "แอนโดรสฟิงซ์ (Andro-Sphinx)" ก็มีรูปร่างเหมือนชาวกรีกนั่นแหละเพียงแต่ว่าไม่มีปีกเท่านั้นเอง และของพวกอียิปต์อีกเช่นกันที่สฟิงซ์แตกเผ่าเป็น "ครีโอสฟิงซ์ (Crio-Spninx)" ที่มีหัวเป็นแกะบ้างหรือเป็นนกเหยี่ยวบ้าง ในเปอร์เซีย (Persia), แอสซีเรีย (Assyria), และฟีเนียเซีย (Phoenicia) มีสฟิงซ์ทั้งสองเพศ ตัวผู้จะมีหนวดและผมหยักศก ส่วนของโรมโบราณเป็นผู้หญิงและอาจจะเป็นแบบที่ส่งผ่านมาให้กับอียิปต์ก็ได้เพราะว่าตัวนี้สวม "งูแอสพ์ (Asp)" คาดอยู่ที่หน้าผากด้วย


ในทาง ภูมิศาสตร์ โอเอซิส หมายถึงอาณาบริเวณส่วนใดของทะเลทราย ที่มีพืชขึ้นอยู่ในลักษณะที่ไม่ใช่สังคมพืชทะเลทราย ซึ่งโดยปกติ จะปรากฏรอบๆตาน้ำ หรือแหล่งน้ำประเภทอื่นๆ โอเอซิสมักเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ต่างๆ และอาจรวมถึงมนุษย์ด้วย หากโอเอซิสนั้นมีพื้นที่มากพอ ตำแหน่งที่ตั้งของโอเอซิสนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ในการค้า หรือการขนส่งผ่านทะเลทราย กองคาราวานจำเป็นที่จะต้องแวะพักยังโอเอซิสต่างๆ เพื่อสะสมน้ำและอาหาร ในการเดินทางต่อๆไป

ที่มา

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศกรีซ


อะโครโพลิส (Acropolis)
อะโครโพลิส (Acropolis) คือ ป้อมปราการที่อยู่บนเทือกเขาสูง มีรากศัพท์คือ Acro มาจาก Akros แปลว่าสูง และ Polis แปลว่าเมือง ซึ่งมีอยู่หลายจุดในประเทศกรีซ โดยทั่วไปจะมีวิหารสำหรับเทพผู้พิทักษ์เมือง อะโครโพลิสที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ ซึ่งมีวิหารสามแห่ง คือ วิหารพาร์เทนอน(Parthenon) วิหารอิเรกเทียม (Erechtheum) และมีโรงละครอีกสองแห่งคือ โรงละครเฮโร เดส อัตติกัส (Theatre of Atticus) และโรงละครไดโอนีซัส (Theatre of Dionysus)







วิหารโอลิมเปี้ยนซุส (Temple of the Olypian Zeus)
วิหารโอลิมเปี้ยนซุส (Temple of the Olypian Zeus) ตัวอาคารสร้างขึ้นเมื่อ 700 ปี ที่แล้ว ซากที่เหลือนี้ถูกทิ้งอยู่ระเกะระกะจนยากที่จะจินตนาการไปถึงว่าครั้งหนึ่ง ที่นี่คือสถานสักการะบูชาที่มีความสำคัญมากกว่าวิหารกรีกอื่นใดทั้งหมดใน สมัยนั้น จนเป็นสาเหตุให้อริสโตเติล ถือว่ายิ่งใหญ่เท่าเทียมกับพีระมิดแห่งอิยิปต์ ปัจจุบัน มีเสาแบบโครินเธียนเหลืออยู่เพียง 15 ต้น จากของดั้งเดิมทั้งหมดที่มีอยู่ 104 ต้น








ภูเขาปาร์นัสซัส (Mt.Parnassos)
ภูเขาปาร์นัสซัส (Mt.Parnassos) ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของเดลฟี นครศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรีกโบราณระหว่างศตวรรษที่ 4 - 7 ก่อนคริสตกาล เดลฟีเป็นจุดศูนย์กลางของยุคคลาสสิค ซึ่งผู้คนนับหมื่นนับพันจากรัฐอื่นๆ ต่างเดินทางมาเพื่อขอเทพพยากรณ์จาก อพอลโล (Apollo) เพราะเป็นคำพยากรณ์ที่ทรงอิทธิพล และผู้คนเลื่อมใสที่สุดในสมัยกรีก พาท่านไปชมโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอะธีนา ประกอบด้วยอนุสาวรีย์ที่สวยที่สุดของเดลฟี มีลักษณะเป็นหอเสากลม แล้วเข้าสู่โบราณสถานของเทพอพอลโล แห่งเดลฟีที่ลือเลื่องภายในกรอบสี่เหลี่ยมนี้มีวิหารอพอลโลอยู่ตรงกลาง โรงละครกลางแจ้งรูปครึ่งวงกลม และสนามกีฬาอยู่บนสุด สิ่งเหล่านี้ล้วนคุ้มค่าต่อการได้ไปชม จากนั้นไปชม น้ำพุคาสตาเลีย ที่มีนำมาจากแหล่งน้ำพุร้อนมีอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี

ที่มาhttp://www.abroad-tour.com

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศนิวซีแลนด์


“ฟรานซ์โจเซฟ กลาเซียร์” ธารน้ำแข็งที่อยูในเวสต์ แลนด์ (WESTLAND NATIONAL PARK)ที่อยู่ในเขตป่าชื้นแห่งเดียวของโลก ชมความมหัศจรรย์ของธาร น้ำแข็งอัน งดงาม ที่เคลื่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษ และยังเคลื่อนตัวอย่างไม่หยุดยั้ง ธารน้ำแข็ง สีขาวระยิบระยับสลับกับสีเขียวมรกตอันงดงามประดับ 








Te Puia ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรม และศูนย์ฝึกหัดงานด้านการฝีมือของชาวเมารี อาทิ เช่น หอประชุมของ ชาวเมารี การแกะสลักไม้ และการทอเครื่องนุ่งห่ม พร้อมชมบ่อน้ำพุ ร้อน บ่อโคลนเดือด สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากพลังความร้อนใต้พิภพที่พวยพุ่งจากพื้นดิน และแร่ธาตุต่างๆ ตามธรรมชาติที่เกิดจากพลังความร้อนใต้พื้นดินใน บริเวณนี้ 




น้ำตกฮูกา (Huga Falls) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของเกาะเหนือ ชมสายน้ำที่ไหลผ่านโตรกหินมายังเบื้องล่าง








ถ้ำไวโตโม (Waitomo Caves) ถ้ำหนอนเรืองแสง ที่เปล่งแสงระยิบระยับ จาก ตัวหนอนนับล้านๆ ตัว สวยงามดั่งดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเดือนมืด นับเป็นปรากฏการณ์ ทางธรรมชาติที่หาดูได้ยากและชมความงดงามของถ้ำหินงอก หินย้อย ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ 






เรือกลไฟโบราณ เรือจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ TSS Earnslaw 1912 เดินทางประมาณ 2,000 เที่ยวต่อปี ใช่ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงประมาณ 1 ตันต่อชั่วโมง เพื่อล่องเรือชม ความงามของทะเลสาบวาคาทีปู มีความยาว 84 กม. เป็นทะเลสาบที่ยาวเป็นอันดับสองในนิวซีแลนด์ ชมทัศนียภาพสองฝั่งทะเล สาบที่สวยงาม 




ที่มา http://travel.thaiza.com